วันแรก |
หาดใหญ่-ท่าเรือตำมะลัง-สุสานพระนางมัสสุหรี-พิพิธภัณฑ์ ดร.มหาธีย์- เคเบิ้ลคาร์-ตลาดกั๊ว |
06.00 น. |
รับคณะจากสนามบินหาดใหญ่ หรือในตัวเมืองหาดใหญ่เพื่อเดินทางตรงสู่ ท่าเรือตำมะลัง จังหวัดสตูล ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม. |
08.00 น. |
ทุกท่านเดินทางถึง ท่าเรือตำมะลัง รับเอกสารผ่านด่านจากทีมไกด์ และรอเวลาลงเรือเฟอร์รี่ ระหว่างนั้นท่านก็ต้องประทับตราหนังสือเดินทางฝั่งประเทศไทยก่อนลงเรือ |
09.00 น. |
ออกเดินทางจากท่าเรือตำมะลังจังหวัดสตูล เดินทางโดยเรือเฟอร์รี่สู่ เกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย โดยใช้เวลานั่งเรือ 45 นาที เป็นเรือเฟอร์รี่ข้ามฝาก มีแอร์ |
09.45 น. |
เมื่อเดินทางถึง เกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย ให้ท่านผ่าน ตม.มาเลเซีย หลังจากประทับตราหนังสือเดินทางฝั่งมาเลเซียแล้ว ไกด์พาท่านเดินไปยังรถที่จอดรอท่านอยู่แล้ว จัดเก็บสัมภาระบนเรือ เมื่อพร้อมแล้วพาท่านไปเที่ยวเกาะลังกาวียังจุดต่างๆ ดังนี้ |
|
1.สุสานพระนางมัสสุหรี ที่นี่เปรียบเป็นสถานที่ จำเป็นต้องมา เมื่อนักท่องเที่ยวไทยมาถึงลังกาวี เพราะมีประวัติศาสตร์เชื่อมโยงกับประเทศไทยอย่างชัดเจน หลายคนอาจเคยได้ยินอีกชื่อหนึ่งคือ พระนางเลือดขาวผู้สาปแช่งลังกาวีเจ็ดชั่วโคตร ตามตำนานเล่าว่า พระนางมัสสุรีเป็นหญิงไทยลูกหลานชาวภูเก็ต และเป็นเจ้าหญิงชายารัชทายาทผู้ครองเกาะลังกาวี ชื่อว่าเจ้าชายวันดารุสซึ่งมีชีวิตอยู่เมื่อ 200 กว่าปีมาแล้ว พระนางมัสสุหรีถูกพระมารดาขององค์รัชทายาทกล่าวหาว่าคบชู้จึงถูกตัดสินประหารชีวิต ก่อนตายนางได้อธิษฐานว่าหากตนบริสุทธิ์ ขอให้เลือดไหลออกมาเป็นสีขาว พร้อมสาปแช่งให้ผู้คนบนเกาะลังกาวีประสบแต่ความทุกข์ยากตลอด 7 ชั่วอายุคน ขณะที่คมกริชจรดไปบนคอ โลหิตสีขาวก็ไหลนองออกมา แสดงให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ของนาง เมื่อเวลาผ่านไป สื่อหลายสำนักและรัฐบาลมาเลเซียต่างพากันตามหาผู้สืบทอดเชื้อสายของพระนางมัสสุรี จนพบว่าทายาทรุ่นที่ 7 เป็นหญิงสาวอาศัยอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย โดยมีหลักฐานมากมายที่แสดงถึงความเป็นทายาทผู้สามารถถอนคำสาปตามความเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นบรรพบุรุษชื่อ "วันฮาเกม" ซึ่งเป็นโอรสของพระนางมัสสุรี กริชประจำตระกูล และภาพหลักฐานต่างๆ ทางรัฐบาลจึงเชิญทายาทรุ่นที่ 7 กลับสู่เกาะลังกาวีเพื่อถอนคำสาป จากเด็กผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตตามปกติ แต่เมื่อเธอได้ไปยืนอยู่บนแผ่นดินเกาะลังกาวี เธอกลับกลายเป็นเจ้าหญิงน้อยๆ ไปในทันที |
|
2.พิพิธภัณฑ์ ดร.มหาธีย์ อาคารพิพิธภัณฑ์สมบัติสิ่งของ ของดร.มหาเธร์ และภริยา ที่ได้รับจากบุคคล องค์กร หรือจากรัฐบาลประเทศต่างๆ จะนำมาเก็บไว้ในอาคารแห่งนี้ เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว และเป็นตัวอย่างให้กับเยาวชนรวมทั้งคนมาเลเซียได้ทราบว่า " ผู้ให้ได้มอบให้กับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ไม่ได้หมายความว่าได้มอบให้กับตนเอง จึงไม่ควรนำไปเป็นสมบัติส่วนตัว" |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (1) |
บ่าย |
พาคณะเดินทางสู่ เคเบิ้ลคาร์ลังกาวี กระเช้าลอยฟ้า Langkawi Cable Car เส้นทางสุดสวยสำหรับคนไม่กลัวความสูงที่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับทิวทัศน์อันงดงามของ "เกาะลังกาวี" แบบ 360 องศา กระเช้า Langkawi Cable Car หรือ Langkawi SkyCab ให้เราโดยสารขึ้นไปชมวิวบนยอดเขาหินปูนสูงลิบได้แทบทุกวัน กระเช้าเส้นทางนี้แบ่งเป็น 3 สถานี คือ สถานีเชิงเขา (Base Station) สถานีกลางทาง (Middle Station) และสถานียอดเขา (Top Station) บางช่วงจะมีการขึงเส้นเคเบิลเหล็กกล้ายาวถึง 950 เมตร ไว้ระหว่างหอคอยสองต้น ทำให้ Langkawi SkyCab กลายเป็นหนึ่งในกระเช้าที่มีเคเบิลเส้นเดี่ยวยาวที่สุดในโลก นอกจากนี้ระหว่างสถานีกลางทางและสถานียอดเขา รถกระเช้าจะต้องเพิ่มระดับองศาความชันขึ้นไปตามหน้าผาที่มีความชันมากถึง 42 องศา มันจึงกลายเป็นรถกระเช้าที่มีความชันมากที่สุดในโลกไปโดยปริยาย รถกระเช้าสุดล้ำสายนี้ใช้เวลาก่อสร้างเร็วอย่างเหลือเชื่อแค่ 16 เดือน และเปิดใช้เป็นทางการเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2002 การเดินทางจากสถานีเชิงเขาถึงยอดเขาระยะทางยาว 2.2 กิโลเมตร ต้องใช้เวลานานถึง 15 นาที เราจึงเต็มอิ่มกับวิวมุมสูงแบบ Bird Eyes View ที่อลังการมาก รวมทั้งยังมีอีกหนึ่งความมหัศจรรย์ทางวิศวกรรมที่ทั่วโลกต้องตะลึง คือ สะพานลอยฟ้าลังกาวี (Langkawi Sky Bridge) เป็นสะพานโลหะขนาดมหึมา สร้างเป็นทรงโค้งเชื่อมยอดเขาสูง 700 เมตร สองลูกเข้าด้วยกัน โดยสะพานยักษ์นี้ยาวถึง 82 เมตร รับน้ำหนักได้ 250 คนในครั้งเดียว |
จากนั้น |
พาคณะเดินทางสู่ ย่านช้อปปิ้งสินคาราคาถูกบนเกาะลังกาวีที่ ตลาดกั๊ว เป็นย่านวัฒนธรรมมาเลเซียบนเกาะลังกาวีที่รวมทุกอย่างไว้ เช่น อาหาร ของใช้ อาคารบ้านเรือน ที่นี่ท่านสามารถหาซื้อของฝากได้หลายหลายทั้งของกินและของใช้ เพราะทั้งหมดเป็นสินค้าปลอดภาษีที่เดียวในประเทศมาเลเซีย |
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร (2) |
พัก |
พาคณะเข้าพัก ณ Bella Vista Hotel หรือ ระดับเดียวกัน |